ปัจจัยภายนอก
เป็นการประเมินโอกาส( Opportunitie : O) และภาวะคุกคาม( Threats : T) ที่มีผลต่อองค์กร สรุปได้ดังนี้
โอกาส ( O)
- นโยบายสาธารณะ เช่นพรบ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น( อปท.) พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ พรบ.สุขภาพแห่งชาติ สนับสนุนให้หน่วยงานสามารถแข่งขันกับรพ.เอกชน คลินิกแพทย์ และร้ายขายยา ได้ดี และยังเปิดโอกาสให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพในท้องถิ่นได้ดี
- ยุทธศาสตร์จังหวัดสงขลาพัฒนา ประชามีสุข 2551 เปิดโอกาสในการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ
- ข้อบัญญัติขององค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นเปิดโอกาสให้ทำงานในชุมชนได้มากขึ้น
- อาชีพส่วนใหญ่ของประชากรเป็นการประกอบเกษตรกรรมและรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลให้มีรายได้ค่อนข้างน้อย ประชาชนจึงหันมาใช้บริการของรัฐมากกว่าไปในบริการ รพ.เอกชน คลินิกแพทย์ และร้ายขายยา
- ลักษณะของการอาศัยประชากร กระจายอยู่ในตำบลต่างๆ ไม่ได้กระจุกตัวในเขตเทศบาล เพราะฉะนั้นประชาชนในตำบลต่างๆจะไปใช้บริการของรัฐ( สถานีอนามัย) มากกว่าจะเดินทางมาในเขตเทศบาลเพื่อใช้บริการคลินิกแพทย์ และร้ายขายยา
- สถานบริการของรัฐมีเครื่องมือ( คอมพิวเตอร์) ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำรายงาน
- รูปแบบการบริหารเครือข่ายทำให้ง่ายต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ระหว่างสถานีอนามัยด้วยกัน หรือ ระหว่างสถานีอนามัยกับโรงพยาบาล หรือระหว่างสถานีอนามัยกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ
- หน่วยงานราชการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ได้พัฒนางานทั้งในรูปแบบ CQI หรืองานวิจัย เพื่อนำมาใช้ในการให้บริการประชาชน
ภาวะคุกคาม ( T)
- พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ พรบ.สุขภาพแห่งชาติ ทำให้เกิดคู่แข่งรายใหม่ที่มีศักยภาพสูงเช่น คลินิกอบอุ่นซึ่งอาจจะมาแบ่งรายรับได้
- พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดสรรงบประมาณเหมาจ่ายรายหัว ตามจำนวนประชากร ทำให้งบประมาณที่ได้จำกัดเนื่องจากประชากรผู้ขึ้นทะเบียนน้อย
- พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ พรบ.สุขภาพแห่งชาติ จะทำให้ประชาชนเรียกร้องสิทธิตนเองมากขึ้น
- เนื่องจากประชาชนมีรายได้ค่อนข้างน้อยไม่มีเวลาดูแลสุขภาพอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
- เนื่องจากการประกอบอาชีพรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้เวลาในการใช้บริการไม่ตรงกับเวลาราชการ หรือมีสิทธิประกันสังคมที่สามารถไปใช้ที่โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกแพทย์ ช่วงนอกเวลาราชการ
- เทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่จะน้อยกว่าของเอกชน อาจทำให้ประชาชนหันไปใช้บริการได้
- บางครั้งจะมีนโยบายเร่งด่วนจากกระทรวงนอกเหนือจากแผนที่วางไว้
ปัจจัยภายใน
เป็นการประเมินหาจุดแข็ง(Strength : S) และ จุดอ่อน( Weaknesses : W) ขององค์การ สรุปได้ดังนี้
จุดแข็ง( S )
- กลยุทธ์และโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ ของเครือข่ายสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสมและเป็นรูปธรรมเป็นไปตามยุทธศาสตร์จังหวัด และกระทรวง
- ผู้นำและคณะกรรมการบริหารสามารถนำพาองค์กรให้บรรลุเป้าหมายได้ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ
- มีคณะทำงานตามยุทธศาสตร์ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและสถานีอนามัย
- การให้บริการทางการแพทย์มีทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน และการให้บริการแพทย์แผนไทย( นวด และการใช้ยาสมุนไพร)
- ค่าใช้จ่ายของผู้มารับบริการ อาจจะไม่ต้องเสียค่าบริการเลย
- เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติได้รับการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีความรู้และทักษะในการให้บริการเป็นอย่างดี
- เจ้าหน้าที่ทุกคนมีค่านิยมองค์การร่วมกัน คือ การให้ประชาชนมีสุขภาวะดี และพึ่งพอใจในบริการ
- มีระบบบริการทั้งในสถานบริการและในชุมชน มีการเยี่ยมเยียนถึงครัวเรือน
- มีหน่วยสนับสนุนระบบริการ ทั้งความรู้ ทรัพยากร
- มีระบบการนิเทศติดตาม เพื่อให้การให้บริการมีคุณภาพ
จุดอ่อน
- จำนวนบุคลากรต่อประชากรยังไม่เพียงพอ
- การนำงานสนับสนุนระบบบริการบางอย่างล่าช้าเพราะต้องรองบประมาณจากเขต เพราะวงเงินสูง เช่น ระบบการจัดส่งเวชภัณฑ์ให้สถานีอนามัย การกำจัดขยะติดเชื้อของเครือข่าย
- การบริหารการเปลี่ยนแปลงไม่สามารถดำเนินการได้
- ขาดทักษะในการบริหารเชิงกลยุทธ์ทำให้ การบูรณาการแผนกลยุทธไม่สอดคล้องการปฏิบัติงานจริง
- ทักษะในการจัดการข้อมูลและ การสื่อสาร ยังไม่ดี
- ไม่มีวิธีหรือกระบวนที่จะช่วยเพิ่มรายรับ
- ขาดการประสานกับหน่วยงานอื่นๆ
ใส่ความเห็น